เหล้าAwamoriเป็นเหล้าหมักโคจิที่ทำมาจากข้าวและผงโคจิดำ ซึ่งมีในเกาะOkinawaของญี่ปุ่นตั้งแต่ปี 1429

เหล้าอะวาโมริ คืออะไร

ข้าวโคจิสีดำและข้าวไทย

เอกลักษณ์ของเหล้าอะวาโมริอยู่ที่ “ข้าวโคจิสีดำ”

จากการสร้างกรดซิตริกเป็นจำนวนมากในกระบวนการผลิตเหล้า ข้าวโคจิสีดำจึงมีจุดเด่นอยู่ที่ความสามารถในการยับยั้งการเน่าเสียที่เกิดจากเชื้อโรค ด้วยประสบการณ์ที่สั่งสมมาเป็นเวลายาวนาน บรรพบุรุษของชาวโอกินาว่ารู้ดีว่า ข้าวโคจิสีดำนั้นเหมาะที่สุดสำหรับการผลิตเหล้าในโอกินาว่า ซึ่งเป็นเขตที่อบอุ่นและชุ่มชื้น
นอกจากนี้ จากลักษณะพิเศษของข้าวอินดิกาของไทย(ข้าวที่มีลักษณะเรียวยาว) ที่มีเนื้อแข็งและลื่น(ไม่เหนียว) ซึ่งช่วยให้ข้าวโคจิสีดำยืดเส้นใยได้ง่าย(ผลิตข้าวโคจิได้ง่าย) เหล้าอะวาโมริจึงมีกลิ่นและรสชาติที่เป็นเอกลักษณ์

การหมักด้วยข้าวโคจิทุกขั้นตอน

“การหมักด้วยข้าวโคจิทุกขั้นตอน” จะใช้ข้าวไทยเป็นวัตถุดิบ โดยการผสมข้าวโคจิสีดำกับข้าวเพื่อผลิตข้าวโคจิ แล้วจึงเติมน้ำและยีสต์ลงไปเพื่อผลิตโมโรมิ และหมักประมาณ 2 สัปดาห์เพื่อให้ได้แอลกอฮอล์ วิธีนี้เป็นการผลิตเหล้าอะวาโมริที่เรียบง่ายและมีเอกลักษณ์

การกลั่นจะใช้ “หม้อต้มกลั่นสุราแบบทับ”

หม้อต้มกลั่นสุราแบบทับ ทำให้ส่วนประกอบในโมโรมิรวมอยู่ในไอน้ำในปริมาณที่พอเหมาะ จึงช่วยให้เหล้ากลั่นคงรสชาติที่ดีของวัตถุดิบเอาไว้ได้ทั้งหมด

เหล้าโคะชุ(คูซุ)

ลักษณะเด่นที่สุด คือการเก็บรักษาระยะยาว เพื่อบ่มส่วนประกอบให้มีรสชาตินุ่มละมุนและมีกลิ่นหอม เหล้าอะวาโมริที่ผ่านการบ่ม 3 ปีขึ้นไป จะเรียกว่าเหล้าโคะชุ(คูซุ)

เหล้าอะวาโมริสามารถบ่มเป็นเวลานาน 100 หรือ 200 ปี เพื่อผลิตเป็นเหล้าโคะชุได้

เหล้าแบบนี้หาที่อื่นใดในโลกไม่ได้ เหล้าโคะชุอายุมากกว่า 100 ปี ส่วนใหญ่สูญเสียไปในระหว่างสงครามโลกครั้งที่ 2 แต่เหล้าโคะชุอายุ 20 หรือ 30 ปี ที่ผลิตหลังสงครามโลก ซึ่งมีรสชาติกลมกล่อมและกลิ่นหอม ก็เป็นที่นิยมอย่างมาก